วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

The Foot and Diabetes

       ภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างของเบาหวานมีผลโดยตรงต่อเท้าอย่างมากมาย ดังนั้นการดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
       ผลของ peripheral neuropathy ที่ขา ทำให้ผู้ป่วยไม่รับรู้แม้จะมีการระคายเคืองผิวหนังที่ตำแหน่งนั้น จะสังเกตเห็นความผิดปกติก็ต่อเมื่อมีความผิดปกติที่รุนแรงเกิดขึ้น อาการแรกที่ผู้ป่วยเบาหวานส่วนมากมักบอกแพทย์คือพบว่ามีเลือดหรือหนองออกมาจากแผล
       การหายของแผลในผู้ป่วยเบาหวานจะช้ากว่าปกติปกติเพราะเลือดไปเลี้ยงขาไม่ดี ทำให้แผลหายช้า แผลที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นทางผ่านให้เชื้อโรคเข้าไปและเกิดการติดเชื้อทั้งของเนื้อเยื่อและกระดูกใต้เนื้อเยื่อนั้น
       ภาวะแทรกซ้อนอื่นที่เจอเมื่อเป็นเบาหวานแล้วควบคุมน้ำตาลไม่ดี  อาการของโรครุนแรงขึ้นพบว่า การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติเสียไป  ระบบประสาทอัตโนมัติจะควบคุมการทำงานของร่างกาย โดยที่สมองไม่ได้สั่งการ เช่น การไหลของน้ำลาย การบีบตัวของลำไส้ การขับเหงื่อ  ผิวหนังที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานที่การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติเสียไปจะแตก แห้ง หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดร่องลึก แผล ซึ่งนำมาสู่การติดเชื้อได้จำเป็นต้องใช้ ครีมบำรุงที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
       การรักษาแผลเบาหวานเป็นสิ่งที่ท้าทายเนื่องจากแพทย์ต้องคำนึงถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น การหายช้าของแผล เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม เลือดไหลเวียนไม่ดี ความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ 
Tip for diabetic foot care
1.           เนื่องจากมีการสูญเสียความรู้สึกที่เท้าจากภาวะ peripheral neuropathyตาจึงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการประเมินสภาพของเท้า ควรตรวจเท้าตนเองทุกวัน ในจุดที่มองเห็นได้ยากก็ควรมีกระจกช่วยส่อง



2.           เปลี่ยนถุงเท้าและรองเท้าบ่อย ๆ หากทำได้ 2-3 ครั้งต่อวันยิ่งดีเนื่องจากในตอนกลางวันหรือตอนเย็นเท้าจะบวมมากกว่าตอนเช้าซึ่งอาจทำให้บางจุดบนเท้ามีแรงกดมาก



3.           ทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและทำให้ผิวหนังที่เท้ามีความนุ่มเพราะการที่ผิวแห้งแตก เชื้อโรคจะเข้าไปได้ง่าย
4.           ล้างทำความสะอาดและเช็ดผิวหนังระหว่างนิ้วเท้าให้สะอาดทุกวันเนื่องจากตำแหน่งนี้เชื้อแบคทีเรียจะไปเกาะอยู่ได้ง่ายที่สุดหากทำเองไม่ได้ควรมีญาติหรือคนดูแลทำให้ทุกวัน





5.           รักษาเชื้อราที่เท้า ผิวหนังแห้งบางครั้งอาจไม่ใช่จากความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติอย่างเดียวหากใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นทาแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจเป็นการติดเชื้อรา ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน และให้การรักษาด้วยยากินหรือยาทาต่อไป


6.           เลือกรองเท้าให้เหมาะสม ต้องมั่นใจได้ว่ารองเท้าที่ใส่ไม่ทำให้มีตุ่มน้ำ หรือ หนังแข็งมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น